“กุ้ง คูนิต้า” หงายท้อง “แม็ค” แฉกลับ ให้เดินแบบฟรี แล้วจะมีปัญหาเรื่องค่าตัวได้ไง

“กุ้ง คูนิต้า” หงายท้อง “แม็ค” แฉกลับกุ้งคูนิต้าดีลให้ไปเดินแบบฟรีไม่ได้ค่าจ้าง จะไปมีปัญหาเรื่องค่าตัวได้ไง เผยเหตุถอนตัวเพราะดาราคนอื่นได้ค่าตัว แต่ตนเองกลับไม่ได้ ส่งผลให้ต้นสังกัดไม่พอใจหาว่าไปแอบรับงานเองหรือเปล่า เลยต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการยกเลิกงาน เสียความรู้สึกกับกุ้งคูนิต้าถ้าอยากจะตัดขาดก็ตามใจ                หลังจาก “กุ้ง คูนิต้า” เจ้าของห้องเสื้อคูนิต้า ออกมาแถลงข่าวโวยวายว่าโดน “แม็ค เอเอฟ” วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล กับ “ปุยฝ้าย ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล” ขอยกเลิกมาร่วมเดินแบบในงาน Japan Expo ทั้งที่ตกลงกันไว้ แถมแฉแหลกว่าสาเหตุมาจากทั้งคู่ไม่พอใจเรื่องค่าตัว ประกาศตัดขาดไม่ขอร่วมงานด้วยอีก โดนแฉขนาดนี้บอกเลยว่าชื่อเสียงของแม็คกับปุยฝ้ายเละ แต่แล้วหนังก็พลิกเมื่อแม็คออกมาให้สัมภาษณ์ขณะมาร่วมงาน 7 สีคอนเสิร์ตพิเศษ รวมเด็ดละคร 7 สี ณ ลาน Nine Square, The Nine Center พระราม 9 เจ้าตัวก็ยืนยันว่างานครั้งนี้ตนได้รับติดต่อให้ไปช่วยงานฟรีจริงๆ แต่พอมารู้ทีหลังว่าคนอื่นได้เงิน ทำให้เสียความรู้สึก และยังติดสัญญากับทางบริษัท จึงได้ขอยกเลิกงานไปล่วงหน้าถึงหนึ่งสัปดาห์แล้ว               “คือเริ่มต้นเรื่องนี้มาคือพี่กุ้งแจ้งแม็คมาเมื่อประมาณเกือบ 3 เดือนที่แล้ว ก็มาบอกว่าแม็คมาช่วยหน่อยสิ ซึ่งพอแม็คกับฝ้ายได้ยินเราก็ยินดีเลย ยินดีไปช่วย ซึ่งพี่กุ้งบอกว่าพี่กุ้งไม่ได้มีงบให้นะ เราก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรครับพี่กุ้งไม่ต้องห่วงเลยครับเรื่องพวกนี้เราไม่ได้แคร์อยู่แล้ว เรายินดีไปช่วย หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้มีอะไร ก็คุยกันมาเรื่อยๆ เพราะสาเหตุที่เราช่วยพี่กุ้งเราก็ช่วยกันมาตลอดอยู่แล้ว เพราะเรารักเขา รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน”                “พอใกล้วันงานจริงๆ ประมาณอาทิตย์หนึ่ง คือแม็คยังอยู่ภายใต้สัญญาของทรูอยู่ ทีนี้บริษัทก็จะออกตารางของศิลปิน ก็จะขึ้นว่าแม็คไปทำอะไร ศิลปินคนนั้นคนนี้ไปทำอะไร ก็จะมีขึ้นว่าแม็คไปเดินแบบงาน เจแปน เอ็กซ์โป และวงเล็บว่าน้องแจ้งว่าเป็นงานช่วยพี่กุ้ง คูนิต้า และบรรทัดต่อไปดันเป็นชื่อศิลปินคนอื่นและมีเขียนเหมือนกันว่างานจ้างเดินแบบเจแปน เอ็กซ์โป แม็คก็งงว่างานนี้คนอื่นที่ไปกันเขาไม่ได้ไปช่วยกันเหรอ แม็คก็เลยถามกับพี่ที่บริษัท เขาก็บอกว่าอ้าวแล้วแม็คคุยยังไง เพราะว่าจริงๆ แล้วศิลปินคนอื่นที่ไปเขาก็เป็นงานจ้างนะ”               “ซึ่งจริงๆ แล้วประเด็นสำหรับแม็ค แม็คไม่ได้อยากได้เงิน แม็ครู้สึกว่างานพี่เรายินดีช่วยอยู่แล้ว แต่ทีนี้เรามารู้ว่ามันมีความที่ไม่ตรงไปตรงมา ทำไมไม่บอกเราตรงๆ ความรู้สึกแรกคือเสียความรู้สึกครับ แต่เราก็รู้สึกว่ายังไงเราก็ต้องไป แต่ทีนี้ไปๆ มาๆ พอแม็คคุยกับบริษัท บริษัทก็ย้อนกลับมาถามแม็คว่าแม็คสนิทกับพี่กุ้งขนาดนี้ ทำไมแม็คไม่ได้ค่าจ้าง หรือค่าน้ำมันอะไรหน่อยเลยเหรอ ซึ่งจริงๆ แล้วบริษัทมีระเบียบว่างานประมาณนี้เป็นกึ่งแบรนด์เสื้อผ้า แบรนด์สินค้า เพราะฉะนั้นเขามองว่ายังไงกฎระเบียบของบริษัท ศิลปินต้องได้ด้วย เขาเลยอาจจะมองได้ว่าแม็คไปรับงานเองหรือเปล่าแล้วแจ้งว่าไม่ได้เงิน ซึ่งแม็คก็เลยต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจกับบริษัทด้วยก็เลยต้องขอถอนตัว”               ยืนยันไม่ได้เบี้ยวงานกลางอากาศ และไม่ขอฝืนใจถ้าอีกฝ่ายบอกไม่ขอร่วมงานกับตนอีก        “ทีนี้เราก็ลำบากใจมาก เพราะว่าต้องไปบอกพี่กุ้งเขาเพราะเขาเป็นพี่เรา ก็ต้องบอกเขาตรงๆ คือบอกอย่างสุภาพนี่แหละครับว่าขอเชิญปรึกษา เป็นการคุยกันทางไลน์ครับ แต่ทีนี้พี่กุ้งก็ตอบรับกลับมาว่า โอเคงั้นเอาที่แม็คสบายใจเถอะ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องเป็นแบบนี้ คือผมว่าในมุมที่พี่น้องคุยกันแล้วน้องไม่ไป เราบอกตรงๆ เพราะเรารู้สึกว่าเป็นพี่น้อง เราก็หวังว่าจะคุยดีๆ และเขาน่าจะเข้าใจ ถ้าเกิดจะเคืองน้อยใจหรืองอนก็พอเข้าใจได้ แต่แม็คไม่ได้เบี้ยวกลางอากาศแน่นอนครับแม็คเข้าใจคนทำงานนะครับ ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลงเราต้องแจ้งเขาล่วงหน้า เพราะเขาต้องไปหาคนมาทำงานต่อ แต่เรื่องไม่พอใจค่าตัวไม่ใช่แน่นอน เพราะงานของแม็คไม่มีค่าตัวครับ”               “แต่สำหรับความสัมพันธ์ต่อจากนี้ จากที่พี่เขาพูดมาก็คือเขาชัดเจนในทางของพี่เขาครับ ก็คงไม่สามารถฝืนใจเขาได้ ก็ไม่ได้คุยกันเลยครับ เห็นแต่ในข่าว แต่แม็คก็แจ้งไปแล้วว่าเรื่องนี้แม็คมีปัญหากับทางบริษัทนะ คือบริษัทก็ไว้ใจแม็ค แต่บางทีงานประเภทนี้ก็ต้องถามกลับมาบ้างว่าแม็คจะไม่ได้อะไรกลับมาบ้างเลยเหรอ จริงๆ แล้วมันเป็นงานที่ควรจะได้บ้างนะ”               “ผมก็ไม่ได้โทร.ไปครับ เพราะทีแรกแม็คตั้งใจว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่งอนกัน พี่กุ้งงอนบ้างไม่งอนบ้าง แต่เรามองว่าสุดท้ายแล้วพี่น้องกัน หลังจบงานถ้าเราเข้าไปหาเข้าไปคุยก็น่าจะพอคุยกันได้ เราไม่คิดว่าจะมาถึงขั้นนี้ทำขนาดนี้ครับ แต่ถ้าพี่กุ้งจะตัดขาดแม็คก็คงไม่สามารถไปฝืนใจเขาได้”               เผยเสียความรู้สึกมาก แต่เชื่อเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผลกระทบกับงานอื่นๆ        “ทีแรกเสียความรู้สึกมากครับ ผมรู้สึกผิดหวังมาก แต่มันก็เหมือนเป็นบทเรียนให้แม็คครับ เราก็ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วควรจะประมาณไหนนะ คืองานบางงานเราก็ต้องผ่านทางบริษัท อย่าคิดว่าเราเป็นคนสนิทใกล้ชิดกันมากแล้วเอาเราง่าย เราเข้าไปคุยแทนกับทางบริษัทแล้วเกิดปัญหาย้อนหลัง เพราะแม็คยังไม่หมดสัญญากับทรูครับ”               “แต่ผมเชื่อว่าไม่กระทบกับงานอื่นๆ นะครับ หลักๆ คือแม็คถ่ายละครและร้องเพลงตามงาน คือที่ผ่านมางานละครแม็คก็เต็มที่ แม็คว่าผู้จัดก็น่าจะรู้จักแม็คดีครับ เริ่มจากเล่นแข็งเล่นไม่ดีแต่เราก็เต็มที่ จนทุกวันนี้เราก็คิดว่าเราก็โอเค ส่วนฝ้ายแน่นอนว่าเขาก็ต้องอยู่ในเวลาที่เราอ่อนแอ แต่ทุกสิ่งที่ฝ้ายเขาพูดอยู่บนพื้นฐานความจริงครับ”               “คนมองว่าภาพลักษณ์แม็คลบเหรอครับ คือจริงๆ แล้วแม็คมีความจริงที่อยู่ตรงนี้นะครับ แม็คเชื่อว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ฉะนั้นคือที่แม็คทำอยู่แม็คอาจจะไม่ได้พูดมาก แต่แม็คทำอยู่ครับ ก็อยากให้ดูที่ผลงานแล้วกัน แม็คพยายามเต็มที่ ไปขึ้นงานร้องแต่ละที่แม็คก็เต็มที่บ้าคลั่ง อยากให้ทุกคนสนุก เราไม่เคยจะไปเบี้ยวนัดใคร อย่างงานที่ว่าแม็คก็แจ้งล่วงหน้าประมาณอาทิตย์หนึ่งด้วยซ้ำ”               บอกคงไม่เข้าไปเคลียร์ และปลื้ม “ฝ้าย” พาไปปฏิบัติธรรมคลายทุกข์        “โอกาสที่จะร่วมงานอีกเหรอครับ คือเราก็ไม่ได้ไปกำหนดตายตัวนะครับ แต่ก็แล้วแต่โอกาสจริงๆ ตัวแม็คเองไม่ได้มีอะไร ก็ร่วมงานได้ มันอยู่ที่พี่เขามากกว่า แม็คไม่ได้โกรธอะไรเลยครับ อันนี้พูดกลางๆ นะ ผมโชคดีมากคือก่อนหน้านี้ผมได้ปฏิบัติธรรม ฝ้ายพาไป และทำให้เราแยกส่วนได้ คือถ้าเกิดเรามัวแต่คิดมากเราถ่ายละครไม่ได้แน่ๆ และพอได้ลองทำอะไรแบบนี้บ้างมันเลยรู้ว่านี่คือความทุกข์ ก็แยกไว้ก่อน ก็ถ่ายละครไปก็เลยผ่านมาได้”               “ก็ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาครับ คือเรื่องดีๆ ก็มีครับ เรื่องราวดีๆ ที่มีให้กันมันมี ฉะนั้นแม็คไม่จำเป็นที่จะต้องไปโกรธแค้นหรือว่าคิดอะไรที่มันลบๆ ก็เสียดายความสัมพันธ์ที่ผ่านมานะครับ ทีแรกเราก็งงว่ามันไม่น่าจะมาขนาดนี้นะในฐานะที่พี่น้องคุยกันนะครับ ผมก็ยังมองว่าเป็นพี่ที่เรารักครับ แต่จะเข้าไปเคลียร์มั้ย แม็คว่าขออยู่กลางๆ ดีกว่าครับ แต่ในฐานะที่เราเป็นเด็กถ้าเกิดมีโอกาสร่วมงานแม็คก็ให้เกียรติและเต็มที่กับเขาอยู่แล้วครับ ฉะนั้นนั่นคือส่วนที่แม็คสามารถแสดงออกและตอบแทนเขาได้”               “ก็ถ้ามีโอกาสได้เจอแม็คก็คงได้พูดคุยอยู่แล้ว คือแม็คไม่ได้แสดงออกในทางก้าวร้าว มันไม่ใช่เราอยู่แล้ว คือผมเชื่อว่าคุยกันดีๆ ได้ ทางพี่พีอาร์ที่บริษัทเขาก็เป็นห่วงเรา คือแม็คทำงานกับทรูมา 5 ปี เขาก็รู้ว่าแม็คเป็นคนประมาณไหนยังไง เพราะฉะนั้นเขาเชื่อยู่แล้วว่าแม็คคงไม่ก้าวร้าวใส่พี่กุ้ง”